ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ให้เกียรติเข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “Shaping Space: Responding to Economic and Demographic Evolution Through Land Use and Urban Management in Japan and Other East Asian Countries” ตามคำเชิญของธนาคารโลก ในระหว่างการประชุม The World Bank Land Conference 2025 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่ธนาคารโลก กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งการเสวนาฯ จัดขึ้นโดย Tokyo Development Learning Center มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการที่ดินและการจัดการเมืองในบริบทของการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้ความท้าทายจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัย และปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยผู้ร่วมเสวนา ซึ่งประกอบด้วยนายกเทศมนตรีเมืองโกเบและเมืองโทยามะ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเลขาธิการคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ ราชอาณาจักรภูฎาน ต่างนำเสนอกลยุทธ์ในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว อาทิ การใช้กฎหมายผังเมือง การประยุกต์ใช้แนวคิด Compact city และ Smart city เป็นต้น
โดย ดร.รวีวรรณ ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัยคล้ายคลึงประเทศญี่ปุ่น โดยปัญหาในด้านที่ดินของประเทศไทยมีหลายประเด็น ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญคือความไม่เท่าเทียมในการถือครองที่ดิน โดยมีเกษตรกรจำนวนมากที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ทำให้ สคทช. ให้ความสำคัญกับนโยบายในการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้นโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ โดยที่ผ่านมา สคทช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนแบบแปลงรวม โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ ภายใต้ คทช. เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรและผู้ยากไร้ อันเป็นรากฐานในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้แก่ตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการย้ายถิ่นฐานของประชากรจากชนบทสู่เมืองอีกด้วย
ทั้งนี้ การประชุม World Bank Land Conference 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 9 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่ธนาคารโลก กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ภายใต้หัวข้อ “Securing Land Tenure and Access for Climate Action” เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนและนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับนโยบาย เทคนิคต่าง ๆ และการปฏิบัติที่ดีในด้านที่ดินระหว่างผู้แทนรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และภาคเอกชน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คนจากทั่วโลก