วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ลงพื้นที่อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเร่งดำเนินงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในพื้นที่ให้ได้รับสิทธิที่ดินอย่างชัดเจน โดยมี นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วย ผอ.สคทช. นายอำเภอท่าปลา ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน ผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช. ร่วมลงพื้นที่ดังกล่าว ณ บริเวณนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์

ผอ.สคทช. กล่าวว่า ราษฎรในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน ได้รับผลกระทบจากปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนกัน ทำให้นิคมไม่สามารถออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ในที่ดินนิคมสร้างตนเอง (น.ค.3) ให้แก่ราษฎร เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงในการออกโฉนดที่ดินตามกฎหมายได้ สคทช. จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) จนแล้วเสร็จ และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาฯ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับมายาวนานมากกว่า 50 ปี และเป็นการคืนความเป็นธรรมของสิทธิในที่ดินของราษฎร ได้สำเร็จ

“ในเวลาอีกไม่นานนี้ ความหวังในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินของประชาชนในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านจะได้รับการแก้ไขปัญหาแล้ว เพราะกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง ในท้องที่อำเภอท่าปลาและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยมีสาระให้ยกเลิกแผนที่แนบท้าย พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง ในท้องที่อำเภอท่าปลาและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2528 เนื่องจากพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีการกำหนดแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาครอบคลุมจำนวนเนื้อที่ไปไม่ถึงตามกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลำน้ำน่าน ฝั่งขวาบางส่วน ในท้องที่ตำบลจริม ตำบลท่าปลา และตำบลร่วมจิต อำเภอท่าปลา และตำบลขุนฝาง อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2560 โดยมีการแก้ไขแผนที่ท้ายให้ถูกต้อง และให้ใช้แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาตามร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองแทน ต่อไป” ผอ.สคทช. กล่าวย้ำ

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวได้รับสิทธิในที่ดินทำกินอย่างชัดเจนพร้อมทั้งสามารถนำเอกสารสิทธิที่ดินไปใช้ในการออกโฉนดที่ดินได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแค่ช่วยแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป