เมื่อวันพุธที่ 10 กันยายน 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบาย
ที่ดินแห่งชาติ (ผอ. สคทช.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินวัดในเขตที่ดินของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เรื่อง การพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดิน
ของรัฐ พร้อมด้วย นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รอง ผอ. สคทช. นายสาคร รุ่งเรือง นายสุจิตร จันทร์สว่าง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นางสาวภทรกช เหนือเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ที่ดินและทรัพยากรดิน และเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ โรงเรียนอู่ทอง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
จากนั้น ผอ.สคทช. ได้ลงพื้นที่วัดเขาเทียมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อใช้ในการประกอบการพิสูจน์สิทธิ เนื่องจากวัดเขาทำเทียมเคยดำเนินการขอออกโฉนดที่ดิน จำนวนเนื้อที่
58 ไร่ แต่ไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินได้ เพราะมีพื้นที่บางส่วนทับซ้อนกับแนวเขตของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีพระมหาพิชัย ธมฺมวิชโย เจ้าอาวาสวัดเขาทำเทียม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานที่ดินจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าร่วมการลงพื้นที่ดังกล่าว ณ วัดเขาทำเทียม ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
ทั้งนี้ ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เห็นชอบ (ร่าง) มาตรการการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ โดยมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำคู่มือสำหรับปฏิบัติงานและแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร. จังหวัด) ใช้มาตรการนี้เป็นแนวทางในการพิจารณาพิสูจน์สิทธิให้กับวัดในพื้นที่ทันที ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาวัดที่ครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนการประกาศให้พื้นที่นั้นเป็นที่ดินของรัฐ ทำให้สามารถพิสูจน์สิทธิได้อย่างเป็นธรรม และจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินของวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ลดข้อขัดแย้งกับหน่วยงานของรัฐ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่พระพุทธศาสนา ไม่เป็นการสร้างภาระเกินสมควรแก่วัดที่จะพิสูจน์สิทธิในที่ดินของวัดให้เกิดความเป็นธรรมต่อวัด และสามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินได้โดยชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งคุ้มครองและสนับสนุนบทบาทของวัดในฐานะศูนย์กลางศาสนาและจิตใจของประชาชน ต่อไป