วันนี้ (16 ตุลาคม 2568) ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ได้มอบหมายให้ นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วย ผอ.สคทช. เป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้โครงการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดิน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนำไปสู่การจัดทำรายงานผลการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้ที่ดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินของประเทศในอนาคต เพื่อให้เกิดการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และสอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ โดยมีนางสาวพิรพร เพชรทอง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมความร่วมมือและขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ ห้องลาเวนเดอร์ 2 - 3 ชั้น 3 อาคารทีเค 3 โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น

ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 10 (3) กำหนดให้ คทช. มีหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดิน จึงได้ดำเนินโครงการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้ที่ดินของประเทศ ให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดิน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 ในการจัดทำคำนิยามการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับสภาพที่ดินและศักยภาพที่ดินคือ “การกำหนดกิจกรรมการใช้ที่ดิน ของหน่วยที่ดินหนึ่ง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐ และ/หรือความต้องการของประชาชน เป็นการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยคำนึงถึงสถาพที่ดิน และศักยภาพที่ดิน เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดความมั่นคง ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการคุ้มครองที่ดินของรัฐ ไม่เกิดผลกระทบ ต่อทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ต้องไม่ลดทอนศักยภาพที่ดินในอนาคต” และพัฒนาเกณฑ์/ปัจจัยที่ใช้ประเมินความเหมาะสมของศักยภาพที่ดิน รวมทั้งการขยายผลต่อเนื่องการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2568 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนำร่องในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้ การติดตามตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินจะครอบคลุมทั้งที่ดินของรัฐและเอกชน โดยเฉพาะที่ดินของรัฐที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน และเชื่อมโยงกับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งข้อเสนอแนะจากการประชุม ฯ ในวันนี้ จะถูกนำไปปรับปรุงเพื่อจัดทำแนวทางและมาตรการในการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับศักยภาพที่ดินและการบริหารจัดการที่ดินต่อไป