เมื่อวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 2/2568 โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล

นายประเสริฐฯ รองนายกรัฐมนตรีฯ ในฐานะประธาน คทช. ได้มอบนโยบายและสั่งการให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และหน่วยที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยให้กรมแผนที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลา รวมถึงให้ สคทช. และหน่วยงานดูแลพื้นที่ป่าไม้ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ป่า หากพบประชาชน เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าต้องชี้แจงและทำความเข้าใจให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ขอให้ดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพให้ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินรวมถึงการเข้าถึงสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

การประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และพิสูจน์สิทธิ การครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ ในพื้นที่นำร่องจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ ได้มีมติเห็นชอบเรื่องที่สำคัญ 5 เรื่อง โดยสรุปดังนี้

1. เห็นชอบการขอรับการการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการภายใต้การบริหารจัดการที่ดินของประเทศ

และการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ (One Map) และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

2. เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ พื้นที่กลุ่มที่ 6 จำนวน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ราชบุรี และเพชรบุรี และพื้นที่กลุ่มที่ 7 จังหวัดอุทัยธานีตามคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 4000 (One Map) และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐต่อไป

3. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ 13 นิคมสหกรณ์14 ป่า โดยให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปดำเนินการตามนัยยะมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2547 โดยให้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดข้อมูลการถือครองและพิจารณาถึงสิทธิของราษฎรที่อยู่อาศัยและทำประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ไม่ถือว่าเป็นการยกเลิกเพิกถอนเอกสารสิทธิใดที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ที่ได้ถือครองอยู่เดิม โดยราษฎรในพื้นที่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิการถือครองที่ดินตามกระบวนการพิสูจน์สิทธิเดิมตามกฎหมาย รวมถึงยกเลิกพื้นที่ 13 นิคมสหกรณ์ 14 ป่า และป่าแม่ริม จากพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และมอบหมายให้ กรมป่าไม้ และ กรมส่งเสริมสหกรณ์ พิจารณาจัดหลักเกณฑ์ วิธีการ และรูปแบบการจัดที่ดินทำกินให้เหมาะสมกับสภาพการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว

4. เห็นชอบพื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

5. เห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ส.ป.ก. นำร่างพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. .... ข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุม และคณะกรรมการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป