พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ซึ่งภายหลังการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แถลงผลการะชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้

พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การจัดสรรที่ดินของรัฐให้กับประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน แบ่งเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมและพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายว่าทำอย่างไรให้ประชาชนคนยากจนได้มีที่ที่อยู่อาศัยและมีที่ดินทำกิน โดยเมื่อย้ายให้ประชาชนเข้ามาในพื้นที่ที่จัดสรรให้แล้ว ในระยะเริ่มต้น เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วย ทั้งถนน ไฟฟ้า น้ำประปา รวมทั้งการส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ และในระหว่างที่พืชผลกำลังเจริญเติบโตเพื่อเก็บผลผลิตมาเป็นรายได้ จะต้องหาทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนด้วย ซึ่งที่ประชุมมอบหมายกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ได้ช่วยกันดูแล

พลเอก สุรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม คทช. มีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการกฎหมายการบริหารจัดการที่ดิน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงานและบูรณาการงานด้านกฎหมายเข้าด้วยกัน ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากที่ทำกินมีอยู่ในหลายพื้นที่ในความรับผิดชอบของหลายกระทรวง และมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนอยู่ประมาณ 20 ฉบับ พร้อมอนุมัติแต่งตั้งอนุกรรมการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน ที่มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้รู้ว่าในการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนได้เข้าไปอยู่พื้นที่ สุดท้ายแล้วประชาชนจะสามารถมีผลผลิต มีรายได้ขึ้นมาจำนวนเท่าไร พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนไปพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานบริหารความขัดแย้งโดยสันติวิธี หรือคณะทำงานเสริมสร้างความเข้าใจ เพื่อดูแลแก้ไขในเรื่องการจัดสรรพื้นที่ใดๆ ในประเทศที่จะมีข้อขัดแย้งของผู้ที่บุกรุกอยู่ก่อน หรือผู้ที่ได้รับการจัดสรรเข้าไปใหม่ หรือผู้มีอิทธิพลที่เข้าบุกรุกในพื้นที่ ทั้งนี้ การจัดสรรที่ดินให้กับพี่น้องประชาชนเป็นความปรารถนาดีของรัฐบาล ที่นายกรัฐมนตรีมีความมุ่งมั่นในเรื่องนี้มาก และได้เน้นย้ำว่าเมื่อมีความขัดแย้งเกิดในพื้นที่จะต้องหาทางแก้ไขให้เกิดสันติวิธี นอกจากนี้ ในเรื่องไฟฟ้าสำหรับประชาชนในพื้นที่ชนบทห่างไกล และเสาไฟฟ้าไปไม่ถึง นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่าขอให้ใช้พลังงานทดแทนรูปแบบอื่น เช่น โซล่าร์เซลล์ พลังน้ำ หรือพลังลม ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ด้าน นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินการจัดสรรที่ดินในระยะที่แรก ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการมอบที่ดินไว้คือที่จังหวัดเชียงใหม่ นครพนม มุกดาหาร และชุมพร ซึ่งลักษณะของการจัดที่ดิน หากเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ จะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ขออนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ เมื่อการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่เสร็จแล้วจะส่งมอบพื้นที่ให้จังหวัด แล้วคณะกรรมการจัดที่ดินระดับจังหวัดจะไปพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของราษฎรที่เข้าร่วมโครงการว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นผู้ที่ยากจน มีรายได้น้อย และเมื่อเข้าทำกินจะได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างไร จากนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะช่วยส่งเสริมเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาอาชีพ การแปรรูป การตลาด การกระจายผลผลิต ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และต่อจากนี้ไปจะมีการดำเนินการระยะยาวในการปรับปรุงระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน และทบทวนข้อกฎหมายเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ในเรื่องการจัดสรรที่ดินกรณีที่เป็นลักษณะแปลงที่ดิน นายกรัฐมนตรีได้ให้ตัวอย่างว่า จะให้ทบทวนให้มีการกระจายตัวไปครบทุกพื้นที่ ทุกภาค ซึ่งพื้นที่จะมีหลายลักษณะ ทั้งป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลนที่มีการบุกรุกแผ้วถางอยู่แล้ว โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำมาดำเนินการจำแนกพื้นที่ การขออนุญาต การจัดคนลง และการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งที่ประชุม คทช. วันนี้มีมติเห็นชอบจัดสรรพื้นที่ป่าชายเลนรวม 27,000 ไร่ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2534 ที่กำหนดให้ชะลอการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนออกไป และจะยื่นขออนุญาตตามมาตรา 19 ของพระราชบัญญัติทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการใช้พื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะทำให้นโยบายการจัดที่ดินของรัฐบาลเดินหน้าไปได้

นอกจากนี้ นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อกังวลในเรื่องที่อยู่อาศัย จึงเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาที่อยู่อาศัยให้คนยากไร้ เพิ่มเติมขึ้นอีก 1 ชุดภายใน คทช. เพื่อดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับคนยากไร้ แต่จำนวนที่ดินอาจจะน้อยกว่าการจัดสรรเพื่อการทำกิน เพื่อให้การทำงานมีความครบถ้วนในทุกมิติ

epetitions

complaint

aerial phot interpretation
Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

previous arrow
next arrow
Slide