เมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น. ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน “บจธ. มอบสิทธิในที่ดินทำกิน สู่ความมั่นคง ยั่งยืน” และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน หรือ คทช.” โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับ ในการนี้ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมงาน
ภายในงานมีการมอบสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชน ในพื้นที่การดำเนินงานของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี และมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่รวม 36,423-2-74 ไร่ ประกอบด้วย 1) พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าปัถวี อำเภอมะขาม เนื้อที่ 915-0–21 ไร่ 2) พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าจันตาแป๊ะและป่าเขาวังแจง อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอแก่งหางแมว เนื้อที่ 34,933-0-08 ไร่ และ 3) พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าสอน ท้องที่อำเภอขลุง เนื้อที่ 575-2-45 ไร่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในฐานะประธานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดจันทบุรี เป็นตัวแทนรับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทั้ง 3 ฉบับ จากรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,328 ราย โดยยังมีพื้นที่อยู่ระหว่างการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี จำนวน 44 พื้นที่ เนื้อที่รวม 245,654-3-85 ไร่
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนาที่ได้ใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะรักษาที่ดินผืนนี้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลาน อีกทั้ง ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญในการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ รวมถึงดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน รวมถึงการบูรณาการภาคีเครือข่ายในการบริหารจัดการในพื้นที่ คทช. ให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในการบริหารจัดการที่ดินให้เกิดความยั่งยืนต่อไป