เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 13.30 น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สคทช. พร้อมด้วย นายสุริยน พัชรครุกานนท์ และนายประเสริฐ ศิรินภาพร รอง ผอ.สคทช. นำคณะผู้บริหาร สคทช. ให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการยกระดับการขับเคลื่อนศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สคทช. “คทช.คลายทุกข์เรื่องที่ดิน โดย สคทช. ครั้งที่ 1” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อประชาสัมพันธ์ช่องทางรับเรื่องราวร้องทุกข์ที่ดินให้แก่ประชาชน เปิดตัวระบบ e-petitions ช่องทางรับเรื่องราวร้องทุกข์ออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยมีผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ
นายภูมิธรรมฯ ได้กล่าวเปิดการสัมมนา โดยสรุปว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน การไร้ที่ดินทํากินและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต รายได้ที่ไม่มั่นคง จึงติดในวงจรของความยากจน ซึ่งบางครั้งการร่วมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินให้แก่ประชาชนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจยังไม่ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์ความยากลําบากและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งกระบวนการจัดที่ดินทํากินให้กับประชาชน มีหน่วยงานจํานวนมากที่เกี่ยวข้อง และปัจจัยความสําเร็จในการดําเนินการขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน คือการได้รับความร่วมมือและผนึกกําลังจากทุกภาคส่วน ดังนั้น การมีศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สคทช. ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่รับเรื่องราวปัญหาจากพี่น้องประชาชนได้อย่างสะดวก สอดรับกับยุคเทคโนโลยีในปัจจุบัน จะทําให้การบูรณาการระหว่างหน่วยงานเป็นไปได้อย่างดียิ่งขึ้น อันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้คลายทุกข์ และความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี จึงขอให้ทุกภาคส่วนมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบูรณาการในการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว สอดคล้อง เป็นระบบและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนคนไทยทุกคน
ดร.รวีวรรณฯ ผอ.สคทช. กล่าวว่า การยกระดับการให้บริการประชาชน ในการร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากรดิน นอกเหนือจากช่องทางต่างๆ ใน 4 ช่องทาง ได้แก่ ยื่นเรื่องด้วยตนเอง ณ จุดบริการประชาชน สคทช. อาคารอารีย์ ฮิลส์ ชั้น 20 กรุงเทพฯ, ส่งทางไปรษณีย์ที่ ศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สคทช., โทรศัพท์หมายเลข 02 265 5445 และ e-mail ที่
สำหรับการสัมมนาฯ ในช่วงเช้า เป็นการบรรยาย (Keynote) เรื่อง "ยกระดับขับเคลื่อนศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สคทช." โดย นายสุริยน พัขรครุกานนท์ รอง ผอ. สคทช. พร้อมด้วยการเสวนาเรื่อง “ช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ ของ สคทช. และระบบรับเรื่องร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากรดิน (e-petitions)” จากนั้นในช่วงบ่าย เป็นการเสวนาเรื่อง "แนวทางบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาร้องทุกข์ด้านที่ดินและทรัพยากรดินเพื่อประโยชน์ของประชาชน กรณีแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เรื่อง แนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนระหว่างนิคมสร้างตนเองโคกตูม จังหวัดลพบุรี และประชาชน"
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการและช่องทางการรับเรื่องราวร้องทุกข์ จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมที่ดิน กองที่ดินของรัฐ (สคทช.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมขับเคลื่อนศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สคทช. และการเปิดคลินิกสัญจรของหน่วยงานภาคีเครือข่าย จะมีไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดเชียงรายต่อไป