เมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 ณ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีต้นแบบ บ้านรวมไทย ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดงานพื้นที่ต้นแบบการจัดที่ดินทำกิน เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดย ผอ.สคทช. เป็นผู้เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “น้อมนำแนวพระราชดำริ สู่พื้นที่ต้นแบบเพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ผอ. สคทช. กล่าวว่า โครงการพื้นต้นแบบการจัดที่ดินทำกินของ คทช. เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จะเป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการถวายความจงรักภักดีและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยความสำเร็จจากพื้นที่ต้นแบบ จะถูกต่อยอดและขยายผลไปยังชุมชนในพื้นที่ คทช. ทั่วประเทศ และเป้าหมายของ สคทช. ให้ประชาชนอาศัยทำกินในที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีพของประชาชนและสร้างโอกาสทางการค้าแล้ว ยังเตรียมผลักดันการรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ คทช. ให้ได้รับมาตรฐานสากลต่างๆ เป็นที่ยอมรับจากตลาดทั้งภายในประเทศและตลาดโลก เพิ่มมูลค่าของสินค้าและผลิตภัณฑ์ ยกระดับรายได้ ความเป็นอยู่ให้คุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินจากภาครัฐมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มุ่งแก้ไขปัญหาการจัดการที่ดินและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้เกิดการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน สร้างประโยชน์ สร้างความสุขให้ประชาชนมีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างเพียงพอ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับราษฎรทุกหมู่เหล่าให้มีความมั่นคงสืบไป โดย ผอ.สคทช. ได้กล่าวเน้นย้ำว่า การจัดที่ดินทำกิน (คทช.) นั้น ไม่สามารถนำไปขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ได้ แต่จะสามารถตกทอดแก่ทายาทหรือลูกหลานต่อไปได้
สำหรับพื้นที่เป้าหมายโครงการฯ ประกอบด้วย (1) จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 พื้นที่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ตำบลช่างเคิ่ง และตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม (2) จังหวัดน่าน จำนวน 3 พื้นที่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ ตำบลป่าแลวหลวง อำเภอสันติสุข เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ ตำบลหนองแดง ตำบลหมอเมือง อำเภอแม่จริม และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด ตำบลตาลชุม ตำบลบ้านพี้ ตำบลยอด ตำบลเปือ อำเภอท่าวังผา อำเภอบ้านหลวง อำเภอสองแคว อำเภอเชียงกลาง (3) จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 พื้นที่ ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง (4) จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 พื้นที่ ในเขตปฏิรูปที่ดินบ้านดงกล้วย ตำบลนาจำปา อำเภอดอนจาน (5) จังหวัดจันทบุรี จำนวน 2 พื้นที่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าปัถวี ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม และเขตป่าชายเลนบริเวณบ้านสุสานขลุง บ้านเตาใน และบ้านท่ามะขาม ตำบลวันยาว อำเภอขลุง และ (6) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 พื้นที่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี
ทั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมการเสวนาให้ความรู้แก่ประชาชน เรื่อง "พื้นที่ต้นแบบการจัดที่ดินทำกินของ คทช. บทเรียนสู่ความสำเร็จ" โดยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สหกรณ์จังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านรวมไทย ผู้แทนภาคประชาชน และการจัดแสดงสินค้าชุมชนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้แทนหน่วยงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนหน่วยงานและภาคประชาชนจากจังหวัดพื้นที่ต้นแบบ ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน จันทบุรี กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมงาน