สิทธิของคนต่างด้าว ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการถือครองที่ดินและห้องชุดของคนต่างด้าวในประเทศไทยตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ...

โดย นางสาวอณุภรณ์ วรรณวิเศษ

นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กลุ่มงานวิจัยและวิเคราะห์มาตรการ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภาคธุรกิจและประชาชนอย่างกว้างขวาง ทั้งยังส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดเงินและตลาดทุนในประเทศ แม้ว่าในปัจจุบันวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็ได้ทิ้งรอยแผลไว้ให้กับเศรษฐกิจไทย ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในห้วงเวลาที่ยากลำบากดังกล่าว รัฐบาลไทยได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนสำคัญประการหนึ่ง คือ การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 เพื่อดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizen) กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner) กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-From-Thailand Professional) และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-Skilled Professional) รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ประเภทผู้พำนักระยะยาว (Long-Term Resident Visa: LTR Visa) อันจะก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องแก่ประชาชนและแรงงาน ทำให้เกิดการลงทุน และทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากการให้สิทธิในการถือครองที่ดินดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจให้มีการเข้ามาอยู่อาศัยและนำเงินมาลงทุนในประเทศ บทความวิชาการฉบับนี้จึงได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิการถือครองที่ดินและห้องชุดของคนต่างด้าวตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้าใจสิทธิของคนต่างด้าว ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ในการถือครองที่ดินและห้องชุดของคนต่างด้าวในประเทศไทยให้ชัดเจน

การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินของคนต่างด้าวในประเทศไทย

การได้มาซึ่งที่ดินหรือการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินของคนต่างด้าวในประเทศไทย ครอบคลุมรายละเอียดดังนี้

  1. การได้รับมรดกในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม

    มาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 24971 ระบุว่าคนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยได้รับมรดกในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม ตามมาตรา 1629 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ได้มาซึ่งที่ดินนั้น (รัฐมนตรีมอบอำนาจให้อธิบดีกรมที่ดิน และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน) แต่เมื่อรวมกับที่มีอยู่เดิมจะต้องไม่เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ ตามมาตรา 87 กล่าวคือ ที่อยู่อาศัย ครอบครัวละไม่เกิน 1 ไร่ ที่ใช้เพื่อพาณิชยกรรม ไม่เกิน 1 ไร่ ที่ใช้เพื่ออุตสาหกรรม ไม่เกิน 10 ไร่ ที่ใช้เพื่อเกษตรกรรม ครอบครัวละ ไม่เกิน 10 ไร่ ที่ใช้เพื่อศาสนา ไม่เกิน 1 ไร่ ที่ใช้เพื่อการกุศลสาธารณะ ไม่เกิน 5 ไร่ และที่ใช้เพื่อการสุสาน ตระกูลละไม่เกิน 1/2 ไร่ โดยที่ดินส่วนเกินต้องจำหน่ายภายในเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี และเมื่อได้รับมรดกแล้ว หากจะจำหน่ายที่ดินต้องขออนุญาตรัฐมนตรี

  2. การนำเงินมาลงทุนในประเทศไทย

    มาตรา 96 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 24972 ได้ระบุถึงคนต่างด้าวซึ่งได้นำเงินมาลงทุนตามจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาท ให้ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกินหนึ่งไร่ และต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี ซึ่งการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวตามมาตรานี้ เป็นไปตามกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 ที่กำหนดให้คนต่างด้าวซึ่งประสงค์จะได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยโดยไม่ต้องอาศัยบทสนธิสัญญาซึ่งบัญญัติให้มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ต้องนำเงินลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทใดประเภทหนึ่ง ได้แก่ (1) การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินหรือดอกเบี้ย (2) การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน หรือกองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (3) การลงทุนในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน และ (4) การลงทุนในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศให้เป็นกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน โดยจำนวนเงินลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาทและต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่าห้าปี ทั้งนี้ บริเวณที่ดินที่อนุญาตให้คนต่างด้าวได้มาต้องอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง และต้องอยู่นอกเขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร และถ้าคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าว กระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จะต้องจำหน่ายที่ดินในส่วนที่ตนมีสิทธิภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด ซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี ถ้าพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวอธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจในการจำหน่ายในที่ดินนั้นและถ้าไม่ใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยภายในกำหนดเวลาสองปีนับตั้งแต่วันจดทะเบียนการได้มา อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น

  3. การได้รับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุน
    1. พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520

      มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 25203 ระบุว่าผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามจำนวนที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควร แม้ว่าจะเกินกำหนดที่จะพึงมีได้ตามกฎหมายอื่น ในกรณีที่ผู้ได้รับการส่งเสริมซึ่งเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดินเลิกกิจการที่ได้รับการส่งเสริมหรือโอนกิจการนั้นให้แก่ผู้อื่น ผู้ได้รับการส่งเสริมต้องจำหน่ายที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่เลิกหรือโอนกิจการ มิฉะนั้นให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้นตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทั้งนี้ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2565 กำหนดให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท สามารถถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย โดยเป็นที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมไม่เกิน 5 ไร่ ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการไม่เกิน 10 ไร่ ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของคนงานไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งที่ดินสำหรับที่เป็นสำนักงานและที่พักอาศัยจะอยู่ในบริเวณเดียวกันกับที่ตั้งสถานประกอบการหรือไม่ก็ได้ โดยในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นพิเศษ สำนักงานจะพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป ทั้งนี้ จะต้องจำหน่ายหรือโอนที่ดินภายใน 1 ปี เมื่อหมดสภาพการเป็นผู้ได้รับการส่งเสริม

    2. พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522

      มาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 25224 ระบุว่าผู้ประกอบพาณิชยกรรมอาจได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหรือในเขตประกอบการเสรี แล้วแต่กรณี เพื่อประกอบกิจการได้ตามจำนวนเนื้อที่ที่คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเห็นสมควร แม้ว่าจะเกินกำหนดที่จะพึงมีได้ตามกฎหมายอื่น ในกรณีที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้ประกอบพาณิชยกรรม ซึ่งเป็นคนต่างด้าวเลิกกิจการหรือโอนกิจการให้แก่ผู้อื่น ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวต้องจำหน่ายที่ดินที่ได้รับอนุญาต ให้ถือกรรมสิทธิ์และส่วนควบกับที่ดินนั้นให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือผู้รับโอนกิจการแล้วแต่กรณี ภายในเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่เลิกหรือโอนกิจการ มิฉะนั้นให้อธิบดีกรมที่ดินจำหน่ายที่ดินและส่วนควบกับที่ดินนั้นให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบุคคลอื่นตามประมวลกฎหมายที่ดิน

    3. พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561

      มาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 25615 ระบุให้ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นคนต่างด้าวตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี แต่ต้องไม่เกินที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการมิได้ประกอบกิจการภายในเวลาสามปี หรือหยุดประกอบกิจการภายในเวลาสามปี หรือหยุดประกอบกิจการในที่ดินดังกล่าว ผู้ประกอบกิจการนั้นต้องจำหน่ายที่ดินดังกล่าวภายในหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกแจ้งให้ทราบ มิฉะนั้นให้สำนักงานฯ มีอำนาจดำเนินการให้มีการจำหน่ายที่ดินดังกล่าวแทนผู้ประกอบกิจการแล้วคืนเงินที่ได้จากการจำหน่ายที่หักค่าใช้จ่ายแล้วให้แก่ผู้ประกอบกิจการ

    4. การได้รับสัมปทานปิโตรเลียม

      มาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 25146 ระบุไว้ว่า เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการปิโตรเลียม ให้คณะกรรมการปิโตรเลียมมีอำนาจอนุญาตให้ผู้รับสัมปทานถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้เท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ แม้ว่าจะเกินกำหนดที่พึงจะมีได้ตามกฎหมายอื่น โดยผู้รับสัมปทานโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้มาก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการฯ ซึ่งการอนุญาตของคณะกรรมการฯ ตามมาตรานี้ให้อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทาน

นอกจากการมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว คนต่างด้าวยังสามารถเช่าที่ดินในประเทศไทยได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด โดยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์7 กำหนดให้การเช่าอสังหาริมทรัพย์สามารถทำสัญญาเช่าได้ไม่เกิน 30 ปี และเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงสามารถต่อสัญญาได้อีกไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันต่อสัญญา พระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 25428 กำหนดให้คนต่างด้าวสามารถเช่าที่ดินโดยมีเนื้อที่ไม่เกิน 100 ไร่ หรือเกินกว่า 100 ไร่ก็ได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีกำหนดระยะเวลาการเช่าไว้เกินกว่า 30 ปี แต่ไม่เกิน 50 ปี ซึ่งผู้เช่าและผู้ให้เช่าอาจตกลงกันต่อระยะเวลาการเช่าออกไปอีกได้มีกำหนดไม่เกิน 50 ปี นับแต่วันที่ตกลงกัน พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 25619 กำหนดให้ต่างชาติสามารถทำสัญญาเช่าได้ไม่เกิน 50 ปี และสามารถต่อสัญญาเช่าได้ไม่เกิน 49 ปี (รวมระยะเวลาไม่เกิน 99 ปี) และพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 252210 กำหนดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสามารถให้เช่า ให้เช่าซื้อ และขายอสังหาริมทรัพย์ในนิคมอุตสาหกรรมหรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการของนิคมอุตสาหกรรมโดยตรง ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาการเช่า และระยะเวลาการเช่าสูงสุดไว้แต่อย่างใด

การถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวในประเทศไทย

มาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 252211 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดรายละเอียดการถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวและนิติบุคคลซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าว โดยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  1. คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
  2. คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520
  3. นิติบุคคลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 97 และมาตรา 98 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย
  4. นิติบุคคลซึ่งเป็นคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการลงทุน
  5. คนต่างด้าวหรือนิติบุคคลที่กฎหมายถือว่าเป็นคนต่างด้าวซึ่งนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรหรือถอนเงินจากบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศหรือถอนเงินจากบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ

ทั้งนี้ มาตรา 19 ทวิ กำหนดให้อาคารชุดแต่ละอาคารชุดจะมีคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 19 ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 49 ของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมดในอาคารชุดนั้น ในขณะที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การเช่าที่ดิน หรือ การถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าวในประเทศไทย จะต้องมีคุณสมบัติสอดคล้องกับเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบของไทยกำหนดเท่านั้น ไม่ใช่ว่าคนต่างด้าวทุกคนจะสามารถถือครองที่ดินหรือห้องชุดในประเทศไทยได้ นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมเนื้อที่ห้องชุดเพื่อไม่ให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดมากเกินไป ทั้งนี้ หากการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้ามาของคนต่างด้าวก็จะเป็นประโยชน์ในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ และยังช่วยสนับสนุนการบรรลุตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน ตลอดจนนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 – 2580) ประเด็นนโยบายด้านที่ 2 การใช้ที่ดินและทรัพยากรดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อสังคม เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรการนี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการหลบเลี่ยงกฎหมายหรือระเบียบ อันจะส่งผลกระทบต่อการถือครองที่ดินและห้องชุดของคนไทย และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยในระยะยาว


อ้างอิง

1 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 71 ตอนที่ 78 ฉบับพิเศษ (30 พฤศจิกายน 2497), หน้า 30.

2 พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 71 ตอนที่ 78 ฉบับพิเศษ (30 พฤศจิกายน 2497), หน้า 31.

3 พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 94 ตอนที่ 38 ฉบับพิเศษ (4 พฤษภาคม 2520), หน้า 9.

4 พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 96 ตอนที่ 41 ฉบับพิเศษ (24 มีนาคม 2522), หน้า 28.

5 พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 34 ก (14 พฤษภาคม 2561), หน้า 24.

6 พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 88 ตอนที่ 43 (23 เมษายน 2514), หน้า 16.

7 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 42 (11 พฤศจิกายน 2468), หน้า 94.

8 พระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 39 ก (18 พฤษภาคม 2542), หน้า 10.

9 พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561, ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 135 ตอนที่ 34 ก (14 พฤษภาคม 2561), หน้า 24-25.

10 พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522, ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 96 ตอนที่ 41 ฉบับพิเศษ (วันที่ 24 มีนาคม 2522), หน้า 13.

11 พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 96 ตอนที่ 67 ฉบับพิเศษ (30 เมษายน 2522), หน้า 36.


epetitions

complaint

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

Slide

รางวัล คนดีศรี สคทช. ประจำปี 2567

previous arrow
next arrow
Slide