เมื่อวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา 16.00 น. ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครพนม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังหอประชุมโรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยมี นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้แทนกล่าวต้อนรับ และนายชัชวาล เอื้อสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม ในฐานะคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดนครพนม กล่าวรายงานความเป็นมา ภูมิสังคม และผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช.
จากนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้เกียรติมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3 ป่า ประกอบด้วย ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยศรีคุณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกาแปลงที่สอง ระยะที่ 1 และ ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกาแปลงที่สอง ระยะที่ 2 เนื้อที่รวม 53,661 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกาแปลงที่สอง ระยะที่ 1 จำนวน 338 ราย โดยมีผู้แทนประชาชน จำนวน 5 ราย เป็นตัวแทนรับมอบ ในการนี้ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สคทช. ได้มอบหมายให้ นายสุริยน พัชรครุกานนท์ รอง ผอ.สคทช. เป็นผู้แทนเข้าร่วมงาน
พลเอก ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่ดินของประชาชนที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน จนเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างของประเทศ เรื่องการถือครองที่ดินมาอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน หรือ คทช. ขึ้น โดยใช้หลักความเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกมิติ ที่อาศัยความร่วมมือในทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินตลอดจนที่อยู่อาศัยของประชาชน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากมีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ ในการดำเนินการ ขอให้ประสานไปที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อที่จะได้หาแนวทางแก้ไขร่วมกันต่อไป พร้อมทั้ง ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค เส้นทางการคมนาคม และเร่งดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน รวมถึงการนำแนวทางสหกรณ์มาใช้ในการบริหารจัดการในพื้นที่ คทช. เพื่อให้ประชาชนสามารถต่อยอดความรู้ มีความเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ คทช. อย่างต่อเนื่อง