เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2565 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 3/2565 ผ่านระบบ Video Conference โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ นายสุริยน พัชรครุกานนท์ และนายประเสริฐ ศิรินภาพร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,483 พื้นที่ 70 จังหวัด เนื้อที่รวม 5,792,114-3-44.75 ไร่ ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 370 พื้นที่ เนื้อที่รวม 1,179,476-0-13.86 ไร่ จัดให้ราษฎรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 76,453 ราย ใน 338 พื้นที่ และดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้ว 271 พื้นที่ พร้อมทั้งรับทราบคำสั่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ 2/2565 สั่ง ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2565 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะอนุกรรมการ จำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน และคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม และประเมินผล
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่สำคัญ ได้แก่
- เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดินตามผลการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยให้กรมพัฒนาที่ดินเร่งดำเนินการ และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
- เห็นชอบการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าไม้ถาวร และให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยพิจารณาถึงพื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ได้จำแนกไปแล้ว และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ของกรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งเห็นชอบการเสนอเรื่องขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 เรื่อง มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ในภาพรวมทั้งประเทศ โดยเรื่องที่ราษฎรร้องเรียนให้เพิกถอนเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดได้รับเรื่องไว้แล้ว รวมถึงเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ที่เกี่ยวข้อง ให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จ จนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติยกเลิกหรือมีข้อสั่งการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและจัดทำกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ถาวรเสนอคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเพื่อพิจารณาต่อไป
- เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ ระยะแรก (ระยะ 5 ปี) สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานตามกรอบนโยบายและแผนด้านที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2570) เป็นแผนปฏิบัติการฯ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ ในระยะ 5 ปี โดยดำเนินการภายใต้กรอบนโยบายหลัก 4 ด้าน ของนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566-2580) ได้แก่ ด้านการสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพและการรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ ด้านการใช้ที่ดินและทรัพยากรดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้านการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และด้านการบูรณาการและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินอย่างมีเอกภาพ โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้ที่ดินและทรัพยากรดินสามารถใช้ประโยชน์และให้บริการเชิงนิเวศได้อย่างยั่งยืน มีการใช้ประโยชน์อย่างมีดุลยภาพและคุ้มค่า เกษตรกรมีขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรดินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการกระจายตัวของการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมมากขึ้น รวมถึงการมีระบบบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินที่มีศักยภาพสูง มีการบูรณาการอย่างเข้มแข็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง - เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 เกี่ยวกับผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด (จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตราด นครนายก นครสวรรค์ ระยอง (ยกเว้นกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง) ลพบุรี ศรีสะเกษ และจังหวัดสระบุรี) และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป