เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม และประเมินผล ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับสหกรณ์เป็นผู้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)
ในการนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ (ประธานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดเชียงใหม่) ได้กล่าวรายงานผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. ในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ โดยดำเนินการจัดที่ดินทำกินแล้ว จำนวน 29 พื้นที่ เนื้อที่ 190,535 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา มีราษฎรอยู่อาศัยและทำกิน จำนวน 42,354 ราย แบ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายดำเนินการในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 25 พื้นที่ เนื้อที่รวม 183,993 ไร่ 82 ตารางวา และเป็นพื้นที่เป้าหมายดำเนินการในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 4 พื้นที่ เนื้อที่รวม 6,542 ไร่ 1 งาน 66 ตารางวา มีการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรตามกระบวนการแล้ว จำนวน 10 พื้นที่ จำนวน 8,075 ราย ออกสมุดประจำตัวและส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดตามกรอบดำเนินงาน 6 ด้าน โดยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา ท้องที่ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่รวม 7,282 ไร่ 1 งาน 23 ตารางวา ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้แล้วตามหนังสืออนุญาต เล่มที่ 111 ฉบับที่ 02 ลงวันที่ 2 เมษายน 2558 มีราษฎรที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1,374 ราย 2,693 แปลง โดยได้รับสมุดประจำตัวแล้ว จำนวน 2,086 ราย รวมถึงได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้วทั้ง 6 ด้าน โดยมีการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจสหกรณ์และในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด มีความเข้มแข็งสหกรณ์ ชั้น 1 และผ่านการประเมินมาตรฐานสหกรณ์ ตามหลักเกณฑ์การประเมินมาตรฐานสหกรณ์ หลักเกณฑ์การจัดมาตรฐานกลุ่มเกษตรกร และหลักเกณฑ์การจัดระดับความเข้มแข็งสหกรณ์
ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้รายงานความเป็นมาของการขับเคลื่อนการยกระดับให้สหกรณ์ชุมชนสามารถเป็นผู้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ คทช. ว่า แนวคิดในการจัดหาที่ดินทำกินให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และการส่งเสริมการรวมกลุ่มของชุมชนในรูปแบบสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้และนำไปสู่การบริหารจัดการที่ดินโดยชุมชน ซึ่งหากสามารถเปลี่ยนให้สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง สามารถยื่นขออนุญาตและรับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ คทช. แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะเป็นการส่งเสริมสิทธิชุมชนในการบริหารจัดการที่ดินด้วยตนเองให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดและขับเคลื่อนการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ คทช. โดยยกสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด เป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชนอื่น ๆ ในพื้นที่ คทช. ได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างแรงจูงใจและขยายผลการดำเนินงานตามนโยบาย คทช. ต่อไป